กล้วยไม้ดิน ซิมบิเดียม โกล แวนการ์ด | Cymbidium Golden Vanguard
Type of Grow : กล้วยไม้ดิน
Description
ซิมบิเดียม โกล แวนการ์ด เป็นกล้วยไม้ทนร้อน (Heat Tolerant Cymbidium,HTC) ที่ดี มันเป็นกล้วยไม้ที่ถูกผสมระหว่าง C. Golden Elf และกล้วยไม้ C. Vanguard.
ซิมบิเดียม โกล แวนการ์ด มีดอกขนาดใหญ่มากถึง 9.5 เซนติเมตร มันอาจเป็นกล้วยไม้ที่มีดอกขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม"กล้วยไม้ทนร้อน"
นอกจากนี้ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ซิมบิเดียม โกล แวนการ์ด ยังเป็นที่นิยมในการนำมาปลูกเลี้ยงเพื่อตัดดอกขาย
Flower
ประมาณ 25% ของกล้วยไม้ที่ได้จากการเพราะเมล็ดจะมีดอกสีเหลืองปนเขียวเล็กน้อยและมีสุขภาพดี ที่เหลืออีก 75% จะเป็นพวกดอกสีเหลือง กลีบปากสีแดง
ซิมบิเดียม โกล แวนการ์ด เป็นกล้วยไม้ที่ทนความร้อนได้ดี มันจะยังคงออกดอกแม้ว่ามีอากาศร้อน นอกจากนี้บางต้นอาจมีดอกที่มีกลิ่นหอม
Reference
http://www.pakkretfloriculture.co.th/
กล้วยไม้ดอกเล็ก ๆ หลากหลายสี
เอื้องพญาไร้ใบดอกแต้ม Chiloschista lunifera 3
ชื่อพ้อง : เอื้องพญาไร้ใบ เอื้องหนวดพระอินทร์ เอื้องหนวดมังกร
เขตกระจายพันธุ์ : พบตามป่าดิบและป่าเบญจพรรณในภาคเหนือของไทย
ช่วงที่กล้วยไม้ออกดอก :
กล้วยไม้เกาะอาศัย มีรากยึดเกาะชัดเจน ใบ ลดรูปเป็นเกล็ดเล็กๆ ช่อดอกแบบกระจะ ห้อยลง มี 8-20 ดอก ดอก กว้างประมาณ 0.8-1 ซม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีน้ำตาลขอบกลีบ สีเขียวอมเหลืองหรือออกขาว บริเวณขอบมีขนห่างๆ หรือหยักไม่เป็นระเบียบ กลีบปากสีขาวอมเหลือง มีลายและแต้มสีน้ำตาล โคนกลีบปากเป็นกะเปาะตื้น ภายในมีขน เป็นกระจุก มีหูกลีบปากข้างตั้งขึ้น
เขตกระจายพันธุ์ : พบตามป่าดิบและป่าเบญจพรรณในภาคเหนือของไทย
ช่วงที่กล้วยไม้ออกดอก :
กล้วยไม้เกาะอาศัย มีรากยึดเกาะชัดเจน ใบ ลดรูปเป็นเกล็ดเล็กๆ ช่อดอกแบบกระจะ ห้อยลง มี 8-20 ดอก ดอก กว้างประมาณ 0.8-1 ซม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีน้ำตาลขอบกลีบ สีเขียวอมเหลืองหรือออกขาว บริเวณขอบมีขนห่างๆ หรือหยักไม่เป็นระเบียบ กลีบปากสีขาวอมเหลือง มีลายและแต้มสีน้ำตาล โคนกลีบปากเป็นกะเปาะตื้น ภายในมีขน เป็นกระจุก มีหูกลีบปากข้างตั้งขึ้น
กล้วยไม้ป่าในประเทศไทย | Wild Orchids for Sale in Thailand
ประมาณ 15 ปีก่อน กล้วยไม้ป่าในประเทศลาวถูกนำมาขายในไทยอย่างมากมาย โดยนำกล้วยไม้ใส่ถุงปุ๋ย แล้วส่งลงเรือมาฝั่งไทย และราคาก็ไม่แพง เพียงกระสอบละ 50 บาทเท่านั้น (ตอนนั้นค่าเงินแตกต่างจากปัจจุบัน) ในตอนนั้น กล้วยไม้ป่าในประเทศไทยยังไม่ค่อยถูกทำลาย เพราะว่ากล้วยไม้ป่าจากประเทศอื่นมีราคาถูกกว่า
ประมาณ 5 ปีก่อน การขายกล้วยไม้ป่าเริ่มลดลง และมีราคาแพงขึ้นกว่าเดิมมาก ทีนี้ป่าในประเทศไทยก็เริ่มที่จะถูกบุกรุกเพราะกล้วยไม้ป่าเริ่มมีราคางาม
ในปัจจุบันกล้วยไม้ป่ามีราคาเกือบเท่ากล้วยไม้เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (แต่ยังคงถูกกว่า)
ทำไมถึงซื้อกล้วยไม้ป่า?
- แต่ก่อน กล้วยไม้ป่ามีราคาถูกกว่ามาก และเป็นสายพันธุ์กล้วยไม้ที่หาซื้อไม่ได้
- จริง ๆ แล้วกล้วยไม้ป่ามีดอกที่ไม่สวยเท่ากล้วยไม้จากการเพาะเนื้อเยื่อ เพราะว่าการที่จะนำกล้วยไม้มาเพาะเนื้อเยื่อนั้นต้องพัฒนาสายพันธุ์พ่อ-แม่ มาพอสมควร
ทำไมถึงควรซื้อกล้วยไม้จากการเพาะเมล็ด?
- หยุดการบุกรุกป่าไม้
- ได้ดอกกล้วยไม้ที่สวยงามกว่า
- กล้วยไม้ออกดอกบ่อยกว่า
กล้วยไม้ เอื้องตะขาบเหลือง | Thrixspermum centipeda Lour. 1790
เอื้องตะขาบเหลือง (wikimedia) |
เขตกระจายพันธุ์ : ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย สิกขิม ภูฏาน อินเดีย
ช่วงที่กล้วยไม้ออกดอก : กรกฎาคม - กันยายน
เอื้องตะขาบเหลืองเป็นกล้วยไม้อิงอาศัยบนต้นไม้ บางครั้งเลื้อยทอดยาวไปบนดิน พบในป่าดิบเขา เจริญเติบโตทั้งในที่แสงแดดจัดและที่ ๆ แสงแดดรำไร
ลำต้นรูปทรงกระบอก ใบรูปขอบขนาน ใบมีความกว้าง 2.5 ซม ยาว 10 ซม ปลายใบเว้าบุ๋ม ออกดอกเป็นช่อและออกทีละมากกว่า 1 ช่อ ดอกมีขนาด 4 ซม ดอกจะทยอยบานคราวละ 2 - 3 ดอก
เอื้องตะขาบเหลือง (http://www.orchidspecies.com/) |
กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปแถบ สีเหลือง ปลายกลีบเรียวแหลม กลีบปากสีขาว ปลายกลับปากมนและมีจุดสีส้ม เส้าแกสรสั้น สีขาว
กล้วยไม้สกุล Ophrys | Orchids Genus
สกุล Ophrys มีความโดดเด่นในด้านลักษณะของดอกที่เลียนแบบได้เหมือนแมลงตัวเมีย ซึ่งจะล่อแมลงตัวผู้ให้มาผสมเกสรให้ กล้วยไม้สกุลนี้จึงมีลูกผสมตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก
กล้วยไม้สกุล Ophrys มีฉายาว่า "กล้วยไม้ผึ้ง" เนื่องจากกล้วยไม้จะมีลักษณะเหมือนผึ้งและแมลงอื่น ๆ คำว่า "Ophrys" เป็นภาษากรีก ซึ่งแปลว่า "คิ้ว" หมายถึง ขนที่ขอบกลีบปากมีลักษณะเหมือนคิ้ว
กล้วยไม้สกุล Ophrys ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในตำราชื่อ "ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ" (Natural History) โดย Pliny the Elder (23-79 AD).
Biology
กล้วยไม้สกุล Ophrys เป็นกล้วยไม้ดิน (terrestrial) กระจายพันธุ์อยู่ที่ทวีปยุโรป ทวีปแอปริกา เอเชียไมเนอร์ถึงเทือกเขาคอเคซัส แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน กล้วยไม้สกุลนี้เป็นกลุ่มหนึ่งที่สำคัญของกล้วยไม้ยุโรป
ในช่วงฤดูร้อน กล้วยไม้สกุล Ophrys ทั้งหมดจะพักตัว (ไม่เจริญเติบโต) โดยมีหัวอยู่ใต้ดินซึ่งทำหน้าที่กักเก็บอาหารไว้ ในช่วงปลายฤดูร้อนมันจะเริ่มออกดอกและแทงหน่อใหม่ หน่อใหม่นี้จะเจริญเติบโตเต็มที่ในฤดูใบไม้ผลิ และหัวเก่าจะตายไป
กล้วยไม้ Ophrys ส่วนใหญ่จะต้องการเชื้อราในการเจริญเติบโต เป็นเรื่องยากที่จะนำกล้วยไม้สายพันธุ์นี้มาปลูก นอกจากนี้มันยังเป็นกล้วยไม้ที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้อนุสัญญาไซเตสครั้งที่ 2 (ไม่ควรตัดกล้วยไม้ทิ้งหรือไม่ควรรบกวนเขตที่กล้วยไม้อาศัย)
ใบสีเขียวเป็นเงา มีดอก 2 ถึง 12 ดอก ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ มีลำต้นตรง กล้วยไม้สายพันธุ์เหล่านี้ยากที่จะปลูกเนื่องจากมันไวต่อการเน่าเปื่อยและเป็นโรคได้ง่าย หากนำมาเลี้ยงต้องดูแลอย่างถูกต้อง
Ophrys ferrum-equinum + Ophrys mammosa
Ophrys achillis
Ophrys calocaerina
Ophrys tenthredinifera
Ophrys thesei
Ophrys punctulata
Ophrys helios
Ophrys helenae & Ophrys spruneri
Ophrys calocaerina
Ophrys ariadnae
Ophrys ferrum-equinum
Ophrys mycenensis
Reference
1. Wikipedia. Ophrys. จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Ophrys
2. Orchids of Greece. จาก http://orchids-greece.blogspot.com/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)