แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Angorchis แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Angorchis แสดงบทความทั้งหมด

กล้วยไม้สายพันธุ์ Angraecum sesquipedale Orchid

ต้นกล้วยไม้ Angraecum sesquipedale
ชื่ออื่นๆ : Aeranthes sesquipedalis, Angorchis sesquipedalis
ถิ่นกำเนิด : มาดากัสการ
การเพาะปลูก : ค่อนข้างยาก
สภาพอากาศที่เจริญเติบโต : อบอุ่น

       กล้วยไม้ชนิดนี้ถูกอธิบายไว้ในปี 1822 เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยที่มักอยู่บนต้นไม้เขตร้อน หรือป่าร้อนชื้นทางตะวันออกของมาดากัสการ์ มันเป็นกล้วยไม้ที่คนรู้จักดีเพราะว่ามันมีข้อโต้เถียงเกี่ยวกับการผสมเกสรของมัน กล้วยไม้ชนิดนี้ออกดอกในช่วงฤดูร้อน ดอกกล้วยไม้มีกลิ่นหอม โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ดอกกล้วยไม้ชนิดนี้มีเดือยยาวถึง 30 เซนติเมตร ซึ่งใช้ล่อแมลงบางชนิดมาดูดน้ำหวานที่อยู่ในเดือยของมัน เมื่อแมลงมาดูดน้ำหวาน[1] ดอกจะได้รับการผสมเกสร ดอกจะบานทนนานเป็นเดือนหากไม่มีแมลงมาผสมเกสรให้

ดอกกล้วยไม้ Angraecum sesquipedale
       ตามธรรมชาติ กล้วยไม้ชนิดนี้อาศัยอยู่ในบริเวณเขตร้อนตลอดปี มีความชื้นสูงและมีแสงแดดไม่มาก กล้วยไม้ชนิดนี้ไม่มีลำลูกกล้วยสำหรับคอยสะสมน้ำ ดังนั้นหากมันขาดน้ำ มันจะแห้งอย่างรวดเร็ว มันเป็นกล้วยไม้ที่ต้องการความชื้นสูงถึง 80% นิยมปลูกโดยใช้กาบมะพร้าวหรือสแฟคนั่มมอส

       นักพฤกษศาสตร์กล่าวว่า กล้วยไม้ชนิดนี้เป้นกล้วยไม้ที่ยากต่อการจำแนก เพราะมันมีลักษณะเหมือน Angraecum 'Veitchi' ซึ่งเป็นพันธุ์ผสมระกว่าง Angracum sesquipedale และ Angracum eburneum.

บทความที่เกี่ยวข้อง
[1]       พฤติกรรมที่แปลกประหลาด







กล้วยไม้สายพันธุ์ Angraecum eburneum Orchid

ชื่ออื่นๆ : Angorchis eburneum, Limodorum eburneum
ถิ่นกำเนิด : เกาะ Mascarene
การเพาะปลูก : ค่อนข้างยาก
สภาพอากาศที่เจริญเติบโต : ปานกลาง

กล้วยไม้ Angraecum eburneum
       กล้วยไม้ชนิดนี้ถูกพบในปี 1804. บนเกาะ Mascarene มันเป็นกล้วยไม้อิงอาศัย เจริญเติบโตบนต้นไม้และบนโขดหิน ออกดอกในฤดูหนาว ช่อดอกยาวถึง 100 เซนติเมตร แต่ละช่อมีดอกประมาณ 12 ดอก ลักษณะดอกมีสีเขียนและสีขาว

       Angraecum eburneum เป็นกล้วยไม้ที่แข็งแรงและมีขนาดใหญ่ ต้องปลูกในกระถางขนาดใหญ่ วัสดุที่นิยมนำมาปลูกกล้วยไม้คือ เปลือกไม้เล็กๆ หรือเปลือกถั่ว ผสมกับกาบมะพร้าว กล้วยไม้ชนิดนี้ต้องการแสงแดดสูง และต้องการความชื้นมากกว่า 70% เป็นกล้วยไม้ที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เร็ว แม้ว่ากล้วยไม้จะขาดน้ำเป็นสัปดาห์ ก็ยังคงสามารถออกดอกได้

       ดอกกล้วยไม้ชนิดนี้มีกลิ่นหอม เพื่อล่อแมลงมาผสมเกสร[1] ลักษณะของดอกไม้จะขึ้นอยู่กับแมลงในพื้นที่นั้นๆ ดอกมีเดือยซึ่งเป็นที่เก็บน้ำหวาน เพื่อให้แมลงมาดูด บางครั้งเดือยอาจยาวถึง 15 เซนติเมตร

บทความที่เกี่ยวข้อง
[1]       พฤติกรรมที่แปลกประหลาด