กล้วยไม้จำเป็นต้องมีชื่อเพื่อการสื่อสารให้เข้าใจตรงกันว่า เรากำลังพูดถึงกล้วยไม้ชนิดใด และสามารถศึกษาต่อได้ว่า กล้วยไม้ชนิดนั้นมีลักษณะอย่างไร มีสภาพ ในการเติบโตอย่างไร ถิ่นกำเนิดอยู่ที่ไหนเป็นต้น ชื่อที่ใช้เรียกกล้วยไม้ มี 3 ประเภท คือท้องถิ่น ชื่อสามัญและชื่อวิทยาศาสตร์
ชื่อท้องถิ่นเเป็นอที่เรียกกล้วยไม้ในท้องถิ่น อาจตั้งชื่อเกี่ยวกับวัฒนธรรม ภูมิปัญญา หรือสถานที่ๆพบกล้วยไม้แต่ละท้องถิ่น ใช้สื่อสารกันในหมู่คณะ คนไทย หรือคนที่รู้จักภาษาไทยเท่านั้น
ชื่อสามัญเป็นชื่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้กันแพร่หลายมากขึ้น และชื่อเหล่านั้นถูกยอมรับกันทั่วโลก ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน ชื่อสามัญมีข้อดีคือชื่อไม่ยาว ทำให้จดจำง่ายกว่าชื่อวิทยาศาสตร์
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ เป็นชื่อที่นักพฤกษศาสตร์ตั้งขึ้น เพื่อไม่ให้สับสนในการเรียกชื่อพืช ซึ่งจะต้องมีชื่อเดียวเท่านั้น และได้มีการตีพิมพ์ในวารสารทางอนุกรมวิธาน ซึ่งการที่เป็นที่ยอมรับกันแล้ว มีข้อดีคือสามารถระบุต้นพืชได้แน่นอน ไม่สับสน เนื่องจากมีชื่อเดียว แต่มีข้อเสียคือ ชื่อยาวทำให้จดจำได้ยาก ชื่อทางพฤกษศาสตร์ จะใช้สกุลนำหน้า และขึ้นต้นด้วยอักษรพิมพ์ใหญ่ เว้นวรรค แล้วตามด้วยชื่อ ชนิด โดยมีชื่อผู้แต่งต่อท้าย ชื่อสกุลและชื่อระบุชนิด ต้องเขียนเป็นตัวเองหรือขีดเส้นใต้
การตั้งชื่อกล้วยไม้ลูกผสมจะต้องขอจดทะเบียนชื่อไปที่ลาดชันสมาคมพืชสวนหนังประเทศอังกฤษ