ต้นกล้วยไม้วานิลลา |
กล้วยไม้จากอเมริกาใต้ ที่ปลูกในเขตร้อน
เรื่องราวเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1500+ ชาวแอซเท็กได้บังเอิญไปพบกลิ่นที่หอมของฝักกล้วยไม้ชนิดหนึ่ง เขาจึงนำฝักนั้นมาปรุงอาหาร และก็เริ่มคิดค้นการทำเครื่องดื่มจากฝักกล้วยไม้ จนกระทั้งปี ค.ศ. 1519 นาย'เอร์นัน กอร์เตส' ได้เดินทางไปที่เม็กซิโก เขาทำให้ผู้คนได้รู้จักกับความหอมของกล้วยไม้วนิลา
กล้วยไม้วนิลาสามารถขยายพันธ์ได้ง่าย ด้วยวิธีการปักชำ แล้วนำไปปลูกในเขตร้อน แต่อย่างไรก็ตาม กล้วยไม้จะไม่ติดฝักหากบริเวณนั้นไม่มีแมลงไปผสมเกสร ด้วยเหตุนี้ทำให้เมืองเม็กซิโกเป็นผู้ผลิตวนิลาส่งออกรายเดียวในโลกเป็นเวลากว่า 300 ปี...
Edmond Albius ผู้ค้นพบวิธีผสมเกสร กล้วยไม้วนิลา |
ฝักกล้วยไม้วนิลา |
ก่อนที่จะได้กลิ่นหอมของวานิลาที่ใช้ปรุงอาหารอย่างแพร่หลายนั้น มีวิธีการหลายขั้นตอน พืชวนิลาไม่สามารถผลิตฝักได้เอง ลำต้นสูง เลื้อยขึ้นไปตามต้นไม้ มีกิ่งก้าน 2-10 กิ่ง แต่ละกิ่งจะมีดอกกล้วยไม้ 2-10 ดอก เมื่อดอกเหล่านี้ถูกผสมเกสร มันจะกลายเป็นฝักทันที เมื่อฝักแก่ก็จะนำมาทำเป็นกลิ่นวนิลา
ในช่วงการผสมเกสร กลีบดอกจะบานในช่วง 6-7 โมงเช้าและจะหุบลงในช่วง 10 โมงเช้า ดังนั้นชาวสวนจะมีเวลาเพียงไม่นานในการผสมเกสรดอกกล้วยไม้ หลังจากผสมเกสร 6 สัปดาห์ ฝักจะโตเต็มที่ และต้องรอถึง 8 เดือน เพื่อให้ได้ฝักที่แก่
ต้นกล้วยไม้วนิลา อุตสาหกรรมวนิลา |
ต่อไป เป็นการทำให้แห้งโดยการนำฝักวนิลามาใส่ในถังไม้อีกครั้ง แล้วปิดฝาให้มิดชิดเพื่อป้องกันความชื้นจากภายนอก... ด้วยเหตุนี้ วนิลาจึงมีราคาแพง ผู้คนจึงค้นหาวิธีการสังเคราะห์กลิ่นวนิลาขึ้นมา ในปี ค.ศ. 1874 นักวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการสังเคราะห์กลิ่นของวานิลา
สูตรทางเคมีของกลิ่นวานิลาสังเคราะห์ (wikipedia:วานิลลา) |
วานิลาที่แท้จริงและวานิลาที่เป็นเพียงแค่ชื่อ
กล้วยไม้สกุลหนึ่ง มีสมาชิกประมาณ 110 สปีชีส์ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกสปีชีส์จะมีกลิ่นหอมซ่อนอยู่ อย่างเช่น "Vanilla inodora" ชื่อมันมีความหมายว่า ไม่มีทั้งกลิ่นและรสชาติ
---ด้านล่างนี้ เป็นรูปภาพประกอบเกี่ยวกับกล้วยไม้วนิลา---
ฝักกล้วยไม้วานิลา ที่มา www.huahuafarm.com |
ส่วนประกอบของดอกกล้วยไม้วนิลา |
ดอกกล้วยไม้วนิลา |