กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู
กล้วยไม้สกุลแวนด้า สันทรายบลู

ความต้องการและการถูกทำลาย
       กล้วยไม้เป็นพืชขั้นสูง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถปรับตัวได้ทันตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ต้นกำเนิดของมันกลายเป็นสถานที่ๆถูกรุกราน ความงามของกล้วยไม้ทำให้มันพบกับความโชคร้าย ตั้งแต่สถานที่กำเนิดของกล้วยไม้ถูกค้นพบ ไม่นานกล้วยไม้ก็ได้หายไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนต้องการมันไปปลูกที่บ้าน

       จากกล้วยไม้ที่มีมากกลายเป็นพืชที่หายากไปอย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นของสะสมที่สำคัญของคนชั้นสูง โดยเฉพาะขุนนางชั้นสูง "Duke of Devonshire" ในปี ค.ศ. 1833. ชายผู้ฟุ่มเฟือย ผู้ซึ่งได้จมอยู่กับความเวิ้งว้าง จนกระทั้งเขาได้หลงไหลในความงามของกล้วยไม้ เขาได้สร้างโรงเรือนขนาด 90x18 เมตรขึ้นมา เพื่อที่จะแขวนกล้วยไม้ที่เขาหามาได้จากรอบโลก ผู้คนเริ่มสะสมกล้วยไม้มากขึ้น แม้กระทั้งจักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส "เออเฌนี เดอ มอนตีโค" ผู้ซึ่งใช้เงินมหาศาลไปกับการจัดแสดงกล้วยไม้สะสมของพระองค์ ให้ประชาชนได้ชม กล้วยไม้จึงได้ขยายวงค์กว้างขึ้น