กล้วยไม้ที่ใช้สำหรับปรุงเป็นอาหารและใช้ทำยารักษาโรค

       หัวของกล้วยไม้ที่อยู่ใต้ดินนั้น เป็นส่วนที่สำคัญที่จะนำมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะในตุรกี กรีก และอิหร่าน สถานที่ซึ่งใช้กล้วยไม้มาทำเป็นยา โดยการเก็บลำลูกกล้วยมาล้าง แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นกวนแป้งให้เข้ากับน้ำเดือด แล้วใส่ลำลูกกล้วยลงไป จะได้ยาที่ใช้รักษาเด็กที่ป่วยหรือสำหรับคนสูงอายุ ยาตัวนี้รู้จักกันในชื่อ "Salep"

  • ในออสเตเรีย ผู้คนบริโภคลำลูกกล้วยที่เติบโตอยู่บนดิน ชื่อสายพันธุ์กล้วยไม้ Gatrodia sesamoides.
  • ในแม็กซิโก ผู้คนใช้ดอกกล้วยไม้ Stanhopea tigrina ในการทำขนม Tortilla
  • ในอินเดีย ผู้คนบริโภคลำลูกกล้วยของกล้วยไม้ Cymbidium
  • ขนมที่มีส่วนผสมของดอกกล้วยไม้
  • ในซิมบร่า มีการใช้ส่วนหัวของกล้วยไม้ที่อยู่ในดิน มาบดแล้วตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาคลุ๊กเข้ากับถั่วลิสงทำเป็นไส้กรอก รู้จักกันในชื่อ Chikanda

ตำนานและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับกล้วยไม้
       เพราะกล้วยไม้มีรูปร่างและลักษณะการเจริญเติบโตไม่เหมือนพืชชนิดใดๆ กล้วยไม้จึงถูกนำมาเป็นยารักษาโรค หัวที่อยู่ใต้ดินของกล้วยไม้ที่ชื่อ "Orchis" ซึ่งเป็นยาโป๊ มีหลากหลายตำนานและประเพณีที่ยังคงรักษาดอกกล้วยไม้ Orchis ให้เป็นหนึ่งในของประดับที่เหน็บไว้ในกระเป๋าหน้าอก ในบางประเทศมีการขายดอกกล้วยไม้ชนิดนี้ เพื่อใช้ในการดึงดูดใจสามี...

กล้วยไม้ Dactylorhiza
       รากของกล้วยไม้ Dactylorhiza ซึ่งดูเหมือนแขนมนุษย์ บ่อยครั้งที่มันถูกใช้เป็นของขลัง มันถูกเรียกว่า "มือขนาดเล็กของพระเจ้า" ในอเมริกา ก็มีการใช้ดอกกล้วยไม้ทำเป็นพวงมาลัยที่แขวนไว้บนรถ. ชาสมุนไพรที่รู้จักกันในชื่อ "Crazy Man" ทำมาจากหัวของกล้วยไม้ Orchis เชื่อว่าเป็นยาที่ปลูกพลังเปลวไฟแห่งรัก
ในอเมริกาใต้ ใช้ลำลูกกล้วยของ Ansellia africana ทำให้เป็นแผ่น แล้วม้วนใส่ใบกล้วยไม้ จากนั้นก็ถักเปียเป็นสร้อยข้อมือ เพื่อป้องกันการฝันร้าย ในเอเชีย ผู้คนยังคงใช้ใบกล้วยไม้ Dendrobium ในการไล่ล่าวิญญาณที่ชั่วร้าย

       จริงจังกว่านั้น แน่นอนว่ากล้วยไม้สามารถนำมาทำเป็นยารักษาโรคได้ ในจีน ได้นำกล้วยไม้ Dendrobium nobile มาใช้เป็นยาชูกำลังตั้งแต่สมัยโบราณ รากของกล้วยไม้ Bletilla ยังคงใช้ในการฟอกโลหิต

       ในยุโยป ดอกเตอร์บางท่านได้ชี้ว่ากล้วยไม้ Epipactis latifolia สามารถรักษาโรคเกาต์ได้ และกล้วยไม้ Dactylorhiza ป้องกันโรควัณโรคได้ เมื่อเวลาผ่านไป กล้วยไม้ Arethusa bulbosa ได้ถูกนำมาใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดฟัน กล้วยไม้ Spiranthes diuretica ในชิลี ใช้ช่วยในการขับปัสสาวะ Cypripedium guttatum ถูกใช้เป็นตัวยาต่อต้านโรคลมชักในไซบีเรีย ส่วน Vanda coerulea ใช้เป็นตัวยารักษาอากาศช้ำและบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดจากกระดูก

       ความงดงามและคุณค่าของกล้วยไม้ ดึงดูดอันตรายมาสู้ตัวกล้วยไม้เอง จนกระทั้งบางกระเทศได้มีการห้ามนำกล้วยไม้ออกมาจากป่า แต่โชคยังดีที่กล้วยไม่สามารถเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อได้