กล้วยไม้สกุลฟาแลน พันธุ์เขากวางอ่อน Phalaenopsis cornu-cervi var. 'alba'

ชื่ออื่นๆ : Polystylus cornu-cervi, Phalaenopsis de-vriesiana
ถิ่นกำเนิด : อินโดนิเซีย พม่า อินเดีย ไทย และเกาะบอร์เนียว
การเพาะปลูก : ง่าย
สภาพอากาศที่เจริญเติบโต : อบอุ่น

กล้วยไม้ฟาแลน เขากวางอ่อน
(en.wikipedia.org)

       กล้วยไม้ชนิดนี้ถูกค้นพบในปี 1827 เป็นทั้งกล้วยไม้อิงอาศัยบนต้นไม้และกล้วยไม้เกาะหินอยู่ตามหน้าผา เจริญเติบโตในป่าเขตร้อนชื้น บ่อยครั้งที่พบกล้วยไม้ชนิดนี้ในป่าที่หนาแน่นไปด้วยต้นไม้--และมีร่มเงามาก ช่อดอกกล้วยไม้ไม่เหมือนช่อดอกทั่วไป ดอกมีขนาดเล็ก ดอกมีสีเหลืองเป็นพื้นหลังและเงา มีลายสีแดง ลักษณะดอกเหมือนใบพัด








กล้วยไม้ฟาแลน เขากวางอ่อน
       กล้วยไม้สกุลฟาแลนเป็นหนึ่งในกล้วยไม้ที่สามารถทนความร้อนได้กว่า 35 องศาเซียลเซียส ในการปลูก ควรนำกล้วยไม้ไปเลี้ยงไว้ในที่ๆมีร่มเงาต้นไม้ มีความชื้นมากกว่า 70 เปอร์เซ็น













กล้วยไม้ฟาแลน เขากวางอ่อน
       กล้วยไม้เขากวางอ่อนเป็นกล้วยไม้ป่า มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น  เอื้องม้าลาย หรือ เอื้องเขากวางอ่อน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Phalaenopsis cornu-cervi (Breda) Blume & Rchb. f.  เนื่องจากมันมีลักษณะช่อดอกคล้ายเขากวาง ดอกสีเหลือง มีแถบสีเข้ม กล้วยไม้พันธุ์นี้สามารถออกดอกทั้งปี

       กล้วยไม้เจริญเติบโตแบบโมโนโพเดียม(เติบโตทางยอด) พบได้ตามป่าเขาที่มีอากาศอบอุ่นชื้น เช่น ในประเทศไทย ก็พบเขากวางอ่อนได้จังหวัดเช่น เชียงราย สุรินทร์ ชลบุรี จันทบุรี กาญจนบุรี และสตูล เป็นต้น



เรื่องราวกล้วยไม้ : กล้วยไม้ที่ไม่ธรรมดาในทะเลทรายออสเตรเลีย

       กล้วยไม้สกุล Rhizanthella gardneri รู้จักกันในชื่อ"กล้วยไม้ใต้ดินทางตะวันตก" เป็นพืชวงศ์กล้วยไม้ ถูกค้นพบในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 1928 ในออสเตรเลียตะวันตก

       Jack Trott สังเกตุเห็นรอยพื้นดินที่แยกออก เขาจึงก้มเข้าไปดูใกล้ๆ เขาได้กลิ่นความหวาน จึงทำการขุดดู เขาพบดอกไม้สีขาวๆเล็กๆที่มีขนาด 1 ซม. กล้วยไม้ที่เขาพบนี้เป็นประเภทใหม่ที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน การค้นพบดังกล่าวสร้างความตื่นเต้นให้ชาวอังกฤษอยู่ระหนึ่ง

       ใบของกล้วยไม้ถูกสร้างขึ้นจากลำต้นใต้ดิน(หัว) ซึ่งทำหน้าที่ผลิตดอกกล้วยไม้ด้วย กล้วยไม้1ช่อ ประกอบด้วยดอกกล้วยไม้ขนาดเล็กอีก 150 ดอก ซึ่งแตกต่างจากกล้วยไม้อื่น ๆ ในออสเตรเลียตะวันตก กล้วยไม้ใต้ดินในออสเตรเลียยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์ใต้ดิน ตลอดชีวิตของมัน ไม่สามารถสังเคราะห์พลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ มันใช้เชื้อราไมคอไรซาในการสังเคราะห์แสงแทน

       ดอกกล้วยไม้จะบานในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนและช่อดอกมีขนาด 2.5-3 ซม.  มีดอกขนาดเล็กสีแดงเข้มประมาณ 8-90 ดอก

       Rhizanthella gardneri พันธุ์ vegetatively สามารถขยายพันธุ์โดยการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยแมลงใต้ดิน เช่น ปลวกในการช่วยผสมเกสรดอกไม้ มันจะส่งกลิ่นหอมพ่อล่อปลวกมาผสมเกสร ฝักจะแก่ในเวลาประมาณ 6 เดือน